สำหรับกล้องวงจรปิดในปัจจุบัน ที่ต้องใช้งานผ่าน Application ส่วนใหญ่จะเป็นกล้องแบบ IP WiFi ซึ่งหมายถึงกล้องที่เชื่อมต่อ WiFi บ้านหรือใส่ซิมอินเตอร์เน็ตเพื่อใช้งานและดูออนไลน์ผ่าน Application ด้วยโทรศัพท์มือถือได้จากทุกที่ทั่วโลก  โดยฟังก์ชันของ Application จะมีความหลากหลายทำให้สามารถใช้งานส่วนต่างๆของกล้องได้มากขึ้น  ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการดูผ่าน Application จะสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดังนี้

  1. การดูภาพสด ซึ่งสามารถดูภาพแบบเรียลไทม์ได้จากทุกที่ เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
  2. การดูภาพย้อนหลัง ซึ่งสามารถย้อนกลับไปดูวีดีโอในช่วงเวลาที่ต้องการได้ สามารถใช้ได้ทั้งรูปแบบ Cloud ของ Application หรือเป็นการใช้ Memory Card กับกล้องโดยตรง
  3. การแจ้งเตือน ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนรูปแบบต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนบุคคล การแจ้งเตือนความร้อน การแจ้งเตือนความเคลื่อนไหว หรือการแจ้งเตือนเสียง (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าและความสามารถของกล้อง)
  4. การควบคุมกล้อง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมให้กล้องหันไปทางซ้าย ขวา บน ล่าง หรือการซูมกล้อง ซึ่งสามารถทำผ่านแอปพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดาย
  5. การตั้งค่าฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าให้กล้องหมุนตามการเคลื่อนไหว ตั้งค่าเวลาให้กล้องหมุนหรือตั้งเวลาให้กล้องบันทึก การตั้งค่าแจ้งเตือนไซเรนหรืออื่นๆ
  6. การสื่อสาร กล้องแบบ IP WiFi ทำงานผ่าน Application จะสามารถพูดโต้ตอบผ่าน Application กันระหว่าง ตัวกล้องและ Application ที่เปิดผ่านอุปกรณ์ใดๆแบบ Real Time
  7. การแชร์อุปกรณ์ โดยสามารถแชร์ตัวกล้องให้บุคคลอื่นเข้าใช้งาน หรือเข้าดูได้ตามต้องการ หรือสามารถยกเลิกสิทธิ์การเข้าดูได้เช่นกัน

และเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ จะมีเคล็ดลับในการใช้งานเล็กน้อยมานำเสนอ เพื่อให้ทดลองทำกับกล้องวงจรปิดที่ใช้งานอยู่ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และเป็นเคล็ดลับเล็กๆสำหรับแก้ไขปัญหาเบื้องต้นในการใช้งานอีกด้วย

  • หมั่นตรวจสอบการเชื่อมต่ออย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือว่าสัญญาณจากซิมที่เราใส่ใช้งานกับอุปกรณ์กล้อง ว่ายังสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ เพื่อไม่ให้พลาดช่วงเวลาสำคัญที่จำเป็นต้องมีการบันทึกข้อมูลไว้
  • ตั้งค่าการแจ้งเตือนอย่างเหมาะสม ไม่ให้เกิดความถี่มากเกินไปในการแจ้งเตือน โดยเฉพาะกับกล้องที่เป็นลักษณะแบตเตอรี่หรือโซล่าเซลล์ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ถูกใช้หมดได้อย่างรวดเร็ว และอาจทำให้แบตเตอรี่หมดและกล้องดับได้
  • เรียนรู้ทำความคุ้นเคยกับฟังก์ชันต่างๆของกล้อง เพื่อให้เข้าถึงฟีเจอร์การใช้งานอย่างเต็มที่
  • หมั่นตรวจสอบการบันทึกการดูย้อนหลังและภาพวีดีโอย้อนหลัง รวมถึงการดูแลรักษาเมมโมรี่การ์ดที่ใช้งานกับกล้อง โดยควรจะมีการถอดมาฟาร์แมทอย่างน้อยประมาณ 2 เดือนครั้ง เพื่อลบสแปมที่ไม่สามารถลบจากการวนทับอัตโนมัติของกล้องได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาเร่งด่วน กล้องจะยังคงทำงานและบันทึกข้อมูลให้เราได้อย่างเต็มที่
  • หมั่นตรวจสอบการอัพเดทกล้อง และการอัพเดท Application อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้เวอร์ชั่นล่าสุดในการใช้งานจะได้ใช้งานอุปกรณ์ได้อย่างเต็มที่
  • การดูแลความปลอดภัยของบัญชี ไม่ว่าจะเป็น ID ล็อกอินของแอพพลิเคชั่นหรือการสร้าง ID Password สำหรับการเข้าดูกล้องเพื่อป้องกันผู้อื่นสามารถเข้าใช้งานได้  

โดยในส่วนการดูแลความปลอดภัยของไอดีล็อกอินนี้ Application จะมีการป้องกันอยู่แล้วในระดับหนึ่งคือ ID ของ Application จะไม่สามารถเข้าใช้พร้อมกันได้  เช่นหากมีการออนไลน์อยู่กับโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งแล้วใช้ ID เดียวกันกับโทรศัพท์มือถืออีกเครื่อง มือถือที่เชื่อมต่อ Account ไว้จะเด้งออก และอาจมีการเรียกหารหัสผ่าน ซึ่งหากลูกค้าไม่ได้มีการสร้างรหัสผ่านเพื่อป้องกันการเข้าดูกล้องไว้ อาจจะเกิดปัญหาถึงขั้นต้องลบกล้องออกจากแอปพลิเคชั่นแล้วเชื่อมต่อใหม่ ซึ่งจะสร้างความยุ่งยากค่อนข้างมาก  วิธีแก้ปัญหาและการป้องกันการเกิดปัญหานี้ จะมีดังนี้

  1. อีเมล account สำหรับแอพพลิเคชั่นจะสามารถใช้งานได้กับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเพียงเครื่องเดียว
  2. หากต้องการใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่า  1 เครื่องในการเข้าดูกล้องใช้การแชร์อุปกรณ์เท่านั้นไม่ใช่การ login ID ซ้อน
  3. หลังจากเชื่อมต่อกล้องกับ Application เรียบร้อยแล้วควรสร้าง ID และรหัสผ่านในการเข้าดูให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นหรือการลักลอบเข้าดู
  4. ID และรหัสผ่านในการเข้าดูกล้องคนมีการจดบันทึกเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการใส่ข้อมูล เพราะหักใส่ข้อมูลผิดอาจทำให้ต้องลบกล้องออกจาก Application แล้วเชื่อมต่อใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น