เมมโมรี่การ์ด หรือ Micro SD Card ที่เรามีการหยิบมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายสำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงนำไปใช้ควบคู่กับอุปกรณ์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูปจนไปถึงกล้องวงจรปิดไร้สายต่างๆ ยุคที่การเก็บข้อมูล รูปภาพ คลิป ไฟล์งานเป็นส่วนสำคัญของการทำงานต่าง ๆ เมมโมรี่การ์ด (Memory Card) จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากความจุของเมมโมรี่การ์ดที่เราควรจะคำนึงให้ดีก่อนเลือกซื้อแล้วยังมีส่วนอื่นที่ควรพิจารณามากกว่าเรื่องของความจุด้วยรู้หรือไม่ เพราะหากว่าเราไม่เลือก เมมโมรี่การ์ด มาใช้งานให้ดีล่ะก็อาจทำให้อุปกรณ์ทำงานช้าลง หรือแม้กระทั่งทำให้ข้อมูลสำคัญสูญหายได้เลยทีเดียว!


ทำไมเมมโมรี่การ์ดถึงสำคัญ?

1.เป็นพื้นที่เก็บข้อมูลหลักของอุปกรณ์
สำหรับอุปกรณ์อย่างกล้องถ่ายภาพ หรือ กล้องวงจรปิด เมมโมรี่การ์ดคือที่เก็บหลัก สำหรับบันทึกภาพ วีดีโอที่เรามีการถ่ายไว้ รวมไปถึงการบันทึกภาพย้อนหลังสำหรับในกล้องวงจรปิด หากเลือกใช้ เมมโมรี่การ์ด ที่ไม่ได้คุณภาพหรือของปลอมพี่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้ข้อมูลเสียหาย ไฟล์เสียได้

2.ส่งผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพการทำงาน
เมมโมรี่การ์ดที่มีความเร็วไม่เหมาะสมกับอุปกรณ์ ความเร็วต่ำเกินไป หรือใช้เทคโนโลยีที่ล้าหลังในส่วนนี้อาจทำให้อุปกรณ์ทำงานช้าลง เช่น บันทึกวิดีโอแล้วกระตุก โหลดไฟล์ช้า หรือแม้แต่แอป หรือกล้องวงจรปิดของเราเกิดอาการค้างบ่อยๆ

3.มีผลต่อการใช้งานในระยะยาว
โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ต้องทำงานต่อเนื่อง เช่น กล้องวงจรปิด หากใช้ เมมโมรี่การ์ด ที่ไม่มีคุณภาพ หรือ ไม่ออกแบบมาเพื่อการบันทึกแบบ 24 ชั่วโมง ไม่สามารถบันทึกคลิปใหม่วนทับอันเดิมได้นอกจากจะเสียเวลาที่จะต้องคอยถอดเมมมา Format Card ด้วยตัวเองบ่อยๆแล้วล่ะก็ เมมโมรี่การ์ดที่ไม่ได้มาตรฐานนี้หากนำมาใช้บันทึกต่อเนื่องเป็นเวลานานๆตัวการ์ดจะเกิดความร้อนซึ่งอาจจะส่งผลให้ตัวเมมการ์ดเสียและลามไปถึงอาจจะทำให้อุปกรณ์ที่เราใช้งานควบคู่กับเมมโมรี่การ์ดนี้เสียไปด้วย 


สิ่งที่ดูให้ดีเมื่อเลือกซื้อ เมมโมรี่การ์ด

1.ความจุของเมมโมรี่การ์ด
การเลือกเมมโมรี่การ์ดนั้นควรพิจารณาเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น หากว่าเราต้องการใช้งานควบคู่กับกล้องวงจรปิด ควรดูให้แน่ใจว่ากล้องวงจรปิดไร้สายที่เราต้องการจะใช้งานควบคู่ด้วยสามารถรองรับเมมโมรี่การ์ดได้สูงสุดที่ความจุเท่าไหร่ และเหมาะสมกับเมมโมรี่การ์ดแบบไหนหากใช้งานกับกล้องวงจรปิดแนะนำให้เลือกที่มีเทคโนโลยี Ultra High Speed เพื่อการบันทึกข้อมูลที่รวดเร็วจะส่งผลดีต่อการใช้งานในระยะยาวนะคะ แต่หากว่าต้องการใช้งานกับกล้องถ่ายรูปที่ต้องการไฟล์คุณภาพสูงก็ควรมีพื้นที่เก็บเพียงพอเพราะขนาดความละเอียดของภาพยิ่งมีความละเอียดสูงหรือคลิปวีดีโอที่มีความคมชัดมากๆจะยิ่งมีการใช้พื้นที่ในการจัดเก็บสูงกว่าไฟล์ปกติทั่วไปนั่นเอง

2.ความเร็วในการบันทึกของเมมโมรี่การ์ด

  • สังเกตและอ่านรายละเอียดของเมมโมรี่การ์ดให้ดีควรเลือกเมมโมรี่การ์ด Class 10 หรือ สูงกว่า เพื่อการบันทึกภาพที่มีความละเอียดสูง
  • UHS-I/UHS-II สำหรับวิดีโอ 4K หรือการถ่ายภาพต่อเนื่อง
  • ดูเครื่องหมายเช่น V30, V60 เพื่อให้แน่ใจว่ารองรับการบันทึกวิดีโอไม่สะดุด

3.เลือกเมมโมรี่การ์ดที่น่าเชื่อถือและการรับประกันชัดเจน
เลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่พิจารณาแต่ราคาเพียงอย่างเดียวเพราะสินค้าที่มีราคาถูกส่วนซื้อมากจนเกินไปอาจจะทำให้เรามองข้ามสิ่งสำคัญอย่างการรับประกันได้เพราะฉะนั้นในส่วนนี้ควรจะพิจารณาให้ดีไม่ใช่แค่ความจุที่จะต้องเพียงพอต่อการใช้งานแต่ความน่าเชื่อถือและการรับประกันและบริการหลังการขายก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน


การใช้ เมมโมรี่การ์ด ให้มีประสิทธิภาพ

  • ไม่ว่าจะใช้งานกับอุปกรณ์ใดก็ตามเราควรที่จะหมั่น “ฟอร์แมตการ์ดเป็นระยะ” โดยใช้คำสั่งฟอร์แมตจากตัวอุปกรณ์ หรือใช้งานคู่กับการ์ด leader เพื่อเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ในการทำการ Format ต่างๆ ไม่แนะนำให้ลบไฟล์ทีละไฟล์ เพราะอาจทำให้ระบบไฟล์ผิดพลาดแถมเสียเวลาอีกต่างหาก
  • หลีกเลี่ยงการถอดการ์ดขณะบันทึกข้อมูล เพราะอาจทำให้ข้อมูลเสียหาย ควรปิดอุปกรณ์ที่เราใส่เมมโมรี่การ์ดให้เรียบร้อยก่อนมีการถอดเมมโมรี่การ์ดหรือใส่เมมโมรี่การ์ด
  • ไม่ควรใช้การ์ดใบเดียวกับหลายอุปกรณ์พร้อมกัน โดยไม่ฟอร์แมตก่อนใช้งาน หากต้องการนำเมมโมรี่การ์ดที่มีอยู่แล้วไปใส่ในอุปกรณ์อื่นหรือเปลี่ยนเครื่องสำหรับใช้งานก่อนนำไปใส่ในเครื่องใหม่เราควรที่จะ Format หรือลบข้อมูลเดิมออกให้เรียบร้อยก่อนใช้งานด้วยนะคะ

เมมโมรี่การ์ด อาจดูเป็นของอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือส่วนสำคัญสำคัญที่มีหน้าที่ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลของเราบนอุปกรณ์ต่างๆ การเลือกให้เหมาะสมจึงมีความสำคัญ ควรใส่ใจและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ของเรา นอกจากจะช่วยยืดอายุอุปกรณ์ ยังลดความเสี่ยงการสูญหายของข้อมูลสำคัญได้ด้วยนะคะ